หมอดูคือใคร?

by duangdd
0 comment
หมอดูคือใคร

คำว่า “หมอดู” สามารถหมายถึงคนจำนวนมาก คำจำกัดความที่พบบ่อยที่สุดคือคนที่คาดการณ์เกี่ยวกับอนาคต เช่น จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต อนาคตจะเปลี่ยนไปอย่างไร เป็นต้น ซึ่งอาจรวมถึงนักโหราศาสตร์ นักอ่านไพ่ยิปซี และผู้มีญาณทิพย์ เช่นเดียวกับคนอื่นๆ ที่ทำนายเกี่ยวกับสิ่งใดๆ เช่น ผู้เผยพระวจนะในสมัยโบราณและสมัยใหม่ นักจิตวิทยา นักจิตวิทยา และคนทรง

ไม่เพียเท่านั้น หมอดูยังเป็นคนที่มีลักษณะพิเศษบางอย่าง ซึ่งในวันนี้เราจะพาไปดูกันว่า หมอดูมีต้นกำเนิดหรือถือกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่ยุคไหน

ลักษณะทั่วไปของหมอดู?

การทำนายดวงเป็นการปฏิบัติแบบโบราณที่ย้อนเวลากลับไปก่อนที่การเขียนจะถูกสร้างขึ้น มันถูกมองว่าเป็นวิธีการทำนายอนาคตและเข้าใจอดีต หมอดูมักจะเป็นคนที่มีภูมิหลังและอาชีพที่หลากหลาย เช่น นักบวช นักจิตวิทยา ผู้มีญาณทิพย์ นักโหราศาสตร์ นักอ่านไพ่ทาโรต์ และนักเล่นไพ่ยิปซี บางคนเชื่อว่าการมีหมอดูอาจไม่ดีต่อสุขภาพของคุณเพราะอาจส่งผลต่อกระบวนการตัดสินใจของคุณโดยที่คุณไม่รู้ตัว บางคนสาบานด้วยโชคของพวกเขาในขณะที่คนอื่นคิดว่าพวกเขาไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากถูกเอาเปรียบ

หมอดูกับต่างวัฒนธรรมทั่วโลก

หมอดูมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในวัฒนธรรมและประเทศต่างๆ พวกเขาอยู่มาหลายปีแล้วและได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงไม่กี่ครั้งที่ผ่านมา หมอดูเป็นคนที่อ้างว่าสามารถอ่านอนาคตของผู้อื่นได้ หมอดูเหล่านี้มักไม่ใช่นักวิชาการหรือผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะที่จำเป็น พวกเขาอาจเป็นนักโหราศาสตร์ นักจิตวิทยา นักอ่านฝ่ามือ หรือผู้มีญาณทิพย์ สิ่งที่พวกเขาทำคืออ้างว่าพวกเขาสามารถเห็นอนาคตและให้การคาดการณ์ตามข้อเรียกร้องของพวกเขา เพื่อให้การปฏิบัตินี้ถูกกฎหมาย หลายรัฐกำหนดให้หมอดูเหล่านี้ต้องลงทะเบียนกับพวกเขาและปฏิบัติตามกฎหมายบางประการที่เกี่ยวข้องกับอาชีพของพวกเขา

หมอดูเป็นตัวละครที่อิงจากบุคคลในพระคัมภีร์ไบเบิลของคาสซานดรา เรื่องราวของตัวละครตัวนี้บอกเล่าในบทกวีมหากาพย์ The Aeneid โดย Virgil กวีชาวโรมัน หมอดูบอกอีเนียสและสหายของเขาว่าพวกเขาถูกลิขิตให้ตายในทรอยหากพวกเขาไม่เคลื่อนไหวเร็วพอ มันเตือนพวกเขาว่าพวกเขาจะถูกคลื่นยักษ์ฆ่าตายและร่างกายของพวกเขาจะลอยไปตามกระแสน้ำไปยังเกาะที่ปกคลุมไปด้วยงูและงูพิษ เพื่อจัดการกับภัยคุกคามเหล่านี้ Aeneas ใช้แบรนด์ที่ลุกโชนเพื่อนำทางเขาในการเดินทางสู่อิตาลี

เรียกได้ว่าหมอดูและการดูดวงมีมาตั้แต่ยุคดึกดำบรรพ์กันเลยทีเดียว จึงเป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นว่ามนุษย์เรานั้นมีความเชื่อในสิ่งลี้ลับตั้งแต่อดีต จนมาสู่ปัจจุบันก็ยังไม่เลือนหายไป

อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ duangdd.co

You may also like

Leave a Comment